Green Cinema : เมื่อการดูหนังไปด้วย รักษ์โลกไปด้วย ทำได้จริงกับ ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’

ระหว่างดื่มด่ำกับภาพยนตร์บนเบาะอันแสนนุ่มสบาย ระหว่างลุ้นไปกับหนังพร้อมมีกลิ่นป๊อปคอร์นหอมฉุยเตะจมูก เชื่อมั้ยว่า เราสามารถดูหนังไปด้วย รักษ์โลกไปด้วยได้

.

อ่านถึงตรงนี้ เชื่อว่าใครหลายคนอาจสงสัยว่าโรงหนังแบบดีต่อโลกมีด้วยเหรอ ขอแอบเฉลยแล้วกันว่าเป็นไปได้จริงนะ เพราะระหว่างที่เรากำลังเพลิดเพลินกับการดูหนัง ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’ ชูแนวคิด Green Cinema โรงภาพยนตร์รักษ์โลกเปิดให้เรามีส่วนหนึ่งของการช่วยลดภาวะโลกร้อนและช่วยโลกของเรา

.

โครงการ Green Cinema ที่ผลักดันโรงหนังรักษ์โลกโดยเมเจอร์ฯ ถือเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมโรงหนังไทยครั้งใหญ่เลยนะ สะท้อนว่าทางเมเจอร์ฯ เองไม่มองข้ามปัญหาสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และใส่ใจด้านสังคมและธรรมาภิบาลด้วย จึงครอบคลุม ESG ทุกมิติ 

 

Green Cinema คืออะไร รักษ์โลกจริงไหม ชวนมาทำความรู้จักไปด้วยกัน 

.

โรงหนังเมเจอร์ฯ สร้างความกรีนตั้งแต่ต้นน้ำเลย ที่ผ่านมา การเข้าโรงหนังอาจสร้างขยะที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมเจอร์ก็เลือกที่จะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่กรีนกว่า เพื่อโลกที่ดีกว่า เช่น ใช้ตั๋ว E-Ticket แทนตั๋วกระดาษแบบเดิม, ใช้ถุงกระดาษแทนถุงพลาสติก, ใช้กล่องกระดาษป๊อปคอร์นที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองฉลากสีเขียว เป็นต้น 

.

แอบรู้มาว่าถังป๊อปคอร์นที่เป็น Bucket ไซส์ใหญ่ เมเจอร์ฯ กำลังจะมีโครงการเอาถังเหล่านี้ไปเป็นอุปกรณ์ปลูกพืชผักและต้นไม้ด้วยนะ เป็นการนำขยะกลับมาใช้ใหม่แทบทุกมิติจริงๆ 

.

การปรับมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อโลกมากกว่าทำให้ลูกค้าแบบเราๆ มีส่วนในการช่วยลดโลกร้อนขณะที่กำลังพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วย ซึ่งนอกจากเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลกแล้ว เมเจอร์ฯ ยังให้ความสำคัญกับการแยกขยะ โดยเปิดให้ลูกค้ามีส่วนในการแยกขยะพลาสติกจากขยะอื่นๆ ด้วย

.

เพราะเมเจอร์ฯ ใส่ใจกับขยะขวดพลาสติกมาก อย่างเสื้อโปโลของพี่ๆ พนักงานเมเจอร์ก็ทำมาจากขวดพลาสติก โดยที่เสื้อ 1 ตัวจะใช้เส้นใยจากขวดพลาสติกราว 12 ขวดในการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาเมเจอร์ฯ ผลิตเจ้าเสื้อนี้มากกว่า 5,000 ตัว เทียบเท่ากับการลดขยะขวดพลาสติกมากถึง 60,000 ขวดเลยทีเดียว 

.

ไม่ใช่แค่ขวดพลาสติก ใต้ร่มโครงการ Green Cinema ยังมีการ upcycling จอหนังที่ไม่ได้ใช้งานแล้วด้วย ใช่แล้ว เจ้าจอหนังขนาดยักษ์ที่ปกติแล้วจะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 10 ปี และมักจะถูกทิ้งเปล่าโดยไม่ได้เอาไปทำประโยชน์ในช่วงอดีตที่ผ่านมา

.

แต่ทุกวันนี้เปลี่ยนไป เมเจอร์ฯ ค้นพบว่าจอหนังมันทนทานแข็งแรงมาก สามารถเอามาเป็นวัสดุทำอย่างอื่นได้ ก็เลยเอาจอหนังที่ไม่ใช้แล้วมา upcycling ให้กลายร่างเป็นกระเป๋ารักษ์โลกสุดเท่ ‘I am Reborn from Screen’ ซึ่งก็ร่วมมือทำกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง PRONTO 

.

นี่แค่ความกรีนจากการจัดการขยะนะ ระหว่างเราดูหนังอย่างเมามัน เมเจอร์ฯ ใส่ใจเรื่องพลังงานด้วย มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องฉาย Laser Projector กว่า 230 เครื่อง แทนการใช้เครื่องฉายดิจิทัลเดิม ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้ถึง 2.8 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 1.6 ล้าน KG และลดปริมาณขยะหลอดฉายแบบซีนอน 920 หลอดต่อปี

.

ทั้งยังใช้เครื่องปรับอากาศในโรงภาพยนตร์แบบอัจฉริยะด้วย เป็นแอร์ที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้าชมหนังในแต่ละโรงได้ ก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

.

นอกจากนี้ เมเจอร์ฯ ยังปรับมาใช้เทคโนโลยีส่งไฟล์ภาพยนตร์ออนไลน์ ผ่านเทคโนโลยี 5G ร่วมกับบริษัท กันตนา โพสต์ โปรดักชั่น จำกัดด้วยนะ แทนการขนส่งทางรถยนต์แบบเดิม ก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

.

ถ้าคิดว่าความกรีนหมดแล้ว ขอบอกเลยว่าคิดผิด เพราะเมเจอร์ฯ เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Ginka EV Charger) ด้วยจ้าา ซึ่งตอนนี้มีแล้วที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และกำลังมีแผนที่จะขยายยังอีก 5 สาขาของเมเจอร์ฯ แถมยังมีการเดินหน้าติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าด้วย

.

เมเจอร์ฯ มีบทบาทเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านเราด้วย โดยมีพื้นที่ที่เรียกว่า M Skywalk พื้นที่สีเขียวสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนได้มาเดินเล่น สูดอากาศ ออกกำลัง และใช้บริการได้ฟรี ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าตึกอเวนิว เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน

.

นอกจากด้านสิ่งแวดล้อม อีกแก่นสำคัญของ ESG ว่าด้วยเรื่องสังคมและธรรมาภิบาล ทางเมเจอร์ฯ ก็เดินหน้าสนับสนุนเต็มกำลังเหมือนกันนะ อย่างด้านสังคม เมเจอร์ฯ มีการจัดกิจกรรมผ่านมูลนิธิ Major Care เช่น มอบโอกาสชมภาพยนตร์ฟรีแก่ผู้ด้อยโอกาส, มอบทุนการศึกษาให้น้องๆ ด้อยโอกาส เป็นต้น หรือด้านธรรมาภิบาลที่มุ่งมั่นใส่ใจชีวิตพนักงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และทำให้องค์กรมีธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ 

.

เรียกได้ว่าเป็นโครงการจากเมเจอร์ฯ ที่เจ๋งมาก เพราะนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มันยังทำให้เราเพลิดเพลินกับการดูหนังพร้อมๆ กับมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมได้ แถมยังช่วยพิ่มทางเลือกธุรกิจสีเขียวให้กับผู้บริโภคสายกรีนแบบเราๆ อีก

.

ว่าแล้วก็เปิดเว็บไซต์เมเจอร์ฯ ดูรอบหนังดีกว่า แฮร่

#LittleBigGreen #AsGreenAsYouCan #MajorCineplex #GreenCinema #เมเจอร์ #โรงหนัง